fbpx
ขยายเวลาถึง 3 กันยายน 2563 กรอก LIVE18 รับส่วนลดเพิ่ม 18% ทุกหลักสูตร

ข้อสอบ TOEIC ติว-เฉลย-อธิบาย Reading Part 5: Incomplete Sentences (24 February 2016)

สวัสดีทุกท่านครับ

สำหรับ TOEIC Quiz ที่อาจารย์นำมาฝากในวันนี้ เป็นของข้อสอบ TOEIC Part 5: Incomplete Sentences ครับ โดยมีความท้าทายอยู่ที่ระดับคะแนน 700 PLUS+ ครับ เพราะฉะนั้น หากได้ลองทำความเข้าใจกับมันแล้ว สอบจริงมีลุ้นว่าอย่างน้อยได้คะแนนนี้แน่นอนครับ (คำตอบ-คำอธิบายอยู่ด้านล่างนี้ครับ)

Have a think before choosing your answer!


EXPLANATION AND ANSWER … >>

ตัวเลือกแต่ละข้อมีความหมายดังนี้ครับ:
(A) or else -> ไม่อย่างนั้น / มิฉะนั้น
(B) besides -> นอกจากนี้
(C) on account of -> เนื่องจาก / เพราะ
(D) either -> อย่างใดอย่างหนึ่ง


“ข้อนี้เราเลือก (A) or else ครับ”

ส่วนประโยค
All the forms you submit must be postmarked no later than the specified date _____ they will be considered untimely.
มีใจความดังนี้ครับ
“แบบฟอร์มทั้งหมดที่คุณส่งต้องถูกประทับตราไปรษณีย์ไม่เกินวันที่ได้ระบุไว้ _____ จะถือว่าไม่ตรงเวลา”

โจทย์ข้อนี้ต้องการให้เราเลือกคำเชื่อมระหว่างประโยคสองประโยคครับ ซึ่งหากเราดูที่ความหมายแล้วจะเห็นได้ว่า:
– ประโยคแรก (ที่มาก่อนช่องว่าง) นั้นกล่าวถึงสิ่งที่ต้องทำ คือ “ส่งไปรษณีย์ไม่เกินวันที่กำหนด” เพราะประโยคใช้คำว่า must ครับ
– ส่วนประโยคที่สอง (ที่มาหลังจากช่องว่าง) สื่อถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น ซึ่งก็คือ “จะถือว่าส่งไปรษณีย์ไม่ตรงเวลา” เนื่องจากประโยคนี้มีคำว่า will นั่นเองครับ

ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างเหล่านี้แล้ว เราลองมาแทนตัวเลือกกันครับ:
(A) or else -> แบบฟอร์มทั้งหมดที่คุณส่งต้องถูกประทับตราไปรษณีย์ไม่เกินวันที่ได้ระบุไว้ไม่อย่างนั้น/มิฉะนั้นจะถือว่าไม่ตรงเวลา
(B) besides -> แบบฟอร์มทั้งหมดที่คุณส่งต้องถูกประทับตราไปรษณีย์ไม่เกินวันที่ได้ระบุไว้นอกจากนี้จะถือว่าไม่ตรงเวลา
(C) on account of -> แบบฟอร์มทั้งหมดที่คุณส่งต้องถูกประทับตราไปรษณีย์ไม่เกินวันที่ได้ระบุไว้เนื่องจาก/เพราะจะถือว่าไม่ตรงเวลา
(D) either -> แบบฟอร์มทั้งหมดที่คุณส่งต้องถูกประทับตราไปรษณีย์ไม่เกินวันที่ได้ระบุไว้อย่างใดอย่างหนึ่งจะถือว่าไม่ตรงเวลา

เห็นแบบนี้แล้ว เราตัดตัวเลือก (B) besides (ถ้าต้องส่งตรงเวลาแต่ยังจะถือว่าส่งไม่ตรงเวลา มันหมายความว่าอย่างไร) และ (D) either (หากจะใช้คำนี้ ประโยคต้องกล่าวถึงสองทางเลือก แต่ในที่นี้ ให้มาเพียงอย่างเดียว) ได้ทันที เพราะฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลย เหลือ (A) or else และ (C) on account of ที่เชื่อมประโยคแล้วให้ความหมายได้อย่างเหมาะสมครับ

แต่ในเมื่อเราต้องเลือกเพียงข้อเดียว จะทำอย่างไรดีล่ะครับ

คำตอบก็คือ ดูสิ่งที่มาต่อจากช่องว่างในประโยคครับ จะพบว่า they will be considered untimely เป็นประโยค เพราะมี subject (ประธาน) คือ they และ verb (คำกริยา) คือ will be considered ครับ ทีนี้ ย้อนกลับมาที่สอง choices ที่เหลือของเราครับ:
(A) or else ต้องตามด้วย subject + verb (แต่ในการใช้บางทีอาจละ subject ออก)
(C) on account of ต้องตามด้วย noun (คำนาม), noun group (กลุ่มคำนาม) หรือ pronoun (คำสรรพนาม) ครับ (วิธีจำก็คือ ต้องไม่มี verb ตามมา)

แสดงว่า ข้อที่เราควรเลือกก็คือ (A) or else เนื่องจากข้อความที่มาหลังจากช่องว่างในโจทย์นั้น เป็นประโยคที่สมบูรณ์นั่นเองครับ

“โดยปกติแล้ว คำเชื่อมที่ลงท้ายด้วย of จะต้องตามด้วย noun, noun group หรือ pronoun นะครับ”

Have a fine day everyone!

– อ.ปริญญ์

Leave a Reply