สวัสดีทุก ๆ ท่านนะครับ วันนี้อาจารย์จะขอพูดถึงเรื่องการใช้คำว่า month
สำหรับคำนี้นะครับ อาจารย์มั่นใจว่าหลาย ๆ ท่านก็คงทราบความหมายอยู่แล้ว ซึ่งคำว่า month แปลว่า เดือน แต่ในวันนี้อาจารย์จะมาพูดถึงการใช้คำ ๆ นี้ที่หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่คุ้นเคย อาจจะยังไม่แน่ใจ หรือว่าเคยใช้ผิดมาก่อนครับ
ความหมายของเดือนต่าง ๆ
ก่อนอื่นเลยเรามาเริ่มในสิ่งที่ทุกท่านน่าจะคุ้นเคย ซึ่งก็คือเดือนในแต่ละปีนะครับ แน่นอนว่าในทุก ๆ ปีมี 12 เดือน เรามาดูภาษาอังกฤษและภาษาไทยกันก่อน
January – มกราคม
February – กุมภาพันธ์
March – มีนาคม
April – เมษายน
May – พฤษภาคม
June – มิถุนายน
July – กรกฎาคม
August – สิงหาคม
September – กันยายน
October – ตุลาคม
November – พฤศจิกายน
December – ธันวาคม
ตัวย่อของแต่ละเดือน
แน่นอนว่าชื่อเดือนของแต่ละเดือนในภาษาอังกฤษ เราสามารถเขียนย่อได้นะครับ ยกเว้นเดือนพฤษภาคม (May) ที่ปกติแล้วเราจะไม่เขียนเป็นคำย่อ ดังนั้น เราลองมาดูหลักการเขียนย่อชื่อเดือนในภาษาอังกฤษกันครับ ซึ่งเราสามารถเขียนย่อได้มากที่สุดเหลือสามตัวอักษรดังนี้ครับ
January – Jan
February – Feb
March – Mar
April – Apr
May – May
June – Jun
July – Jul
August – Aug
September – Sep
October – Oct
November – Nov
December – Dec
วิธีใช้ month กับ preposition
เราลองมาดูการใช้ preposition (คำบุพบท) กับคำว่า month กันครับ โดยทั่วไปเวลาพูดถึงเดือน เราก็จะใช้คำว่า in นำหน้าชื่อเดือนนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น in December เมื่อเรานำมาใช้ในรูปแบบประโยค จะได้ดังนี้
Christmas takes place in December.
มีความหมายว่า คริสต์มาสเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม
แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะพบว่ายังมีในหลาย ๆ สถานการณ์ที่เราจะใช้คำว่า on นำหน้าชื่อเดือนครับ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยนะครับว่า…
เอ๊ะ! เราใช้ on ได้ยังไงในเมื่อปกติแล้วเราใช้คำว่า in
ก่อนอื่นนะครับเราจะต้องมาดูการพูดถึง วันที่ กันก่อนนะครับ เวลาเราพูดถึงวันที่ เราจะใช้คำว่า on ครับ เช่น on the first, on the 15th เมื่อเราใช้ วันที่ คู่กันกับ เดือน เราจะให้ความสำคัญกับวันที่มากกว่า
เพราะฉะนั้น วันที่หนึ่งเดือนธันวาคม เราเลยพูดว่า
on 1 December (ในรูปแบบ British English)
หรือ on December 1 (ในรูปแบบ American English)
อาจารย์ขอย้ำนะครับ เวลาพูดถึงเดือนโดยปกติเราใช้ in แต่ถ้ามีวันที่มาด้วยเราจะใช้ on นำหน้าแทนครับ
Idioms for You 😊
ทีนี้นะครับเรามาดูสำนวนที่น่าสนใจเกี่ยวกับคำว่า month ที่อาจารย์ได้คัดนำมาฝากผู้อ่านทุก ๆ ท่านครับ
มาดูสำนวนแรกกันครับผม
flavor of the month
หากเราแปลตรงตัวก็จะได้ความหมายว่า รสชาติประจำเดือน นะครับ เช่น เราไปซื้อไอศกรีมแล้วเขามีรสชาติพิเศษประจำเดือน แต่จริง ๆ แล้ว มันเป็นสำนวนด้วยครับ ซึ่ง flavor of the month แปลว่า บุคคลหรือว่าสิ่งของที่เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เช่น
Right now, artificial intelligence is the flavor of the month.
ซึ่งแปลว่า ในขณะนี้ปัญญาประดิษฐ์หรือว่า AI เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ครับ
มาดูอีกสำนวนหนึ่งนะครับ
a month of Sundays
ความหมายของสำนวนนี้หมายถึง ระยะเวลาที่ยาวนานมาก หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นหรือใช้ระยะเวลายาวนานถึงจะเกิดขึ้นได้ อย่างเช่น
You won’t pass this test, not in a month of Sundays.
ประโยคนี้เป็นการพูดเน้นย้ำว่า คุณไม่มีทางสอบผ่านแน่นอน
ซึ่งถ้าหากเรานำสำนวนนี้มาตีความ a month of Sundays จะได้ความหมายก็คือ เดือนที่มีแต่วันอาทิตย์ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้จริง ดังนั้น ในภาษาอังกฤษเลยมีการใช้สำนวนนี้กันเพื่อพูดถึงสิ่งที่มันเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้จริงนั่นเองครับ
Extra Usage Tips 😊
อาจารย์ขอฝากอีกสองสามคำศัพท์นะครับ ซึ่งทุกท่านอาจจะพบเจอบ่อยเวลาใช้คำว่า month ครับ คำแรก
month-on-month
เราใช้คำนี้เพื่อเปรียบเทียบผลทางด้านการเงินหรือว่ายอดขายระหว่างเดือนหนึ่งกับเดือนก่อนหน้านั้น ซึ่งสามารถใช้เป็นได้ทั้ง adjective (month-on-month) หรือว่า adverb (month on month) ครับ สังเกตว่ารูปแบบของ adverb จะไม่มี hyphen เชื่อมระหว่างคำครับ เราลองมาดูประโยคตัวอย่างของคำนี้กันครับ
The government said month-on-month inflation grew one percent in February.
แปลว่ารัฐบาลบอกว่าอัตราเงินเฟ้อเดือนต่อเดือนเพิ่มขึ้น 1% ในเดือนกุมภาพันธ์ แสดงว่า เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม (เดือนก่อนหน้า) มีอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1% ครับ
ลองดูตัวอย่างประโยคที่สองกันนะครับ
Our sales continue to grow month on month for many years.
แปลว่า ยอดขายของเราเราโตขึ้นเดือนต่อเดือนมาเป็นระยะเวลาหลายปี สังเกตว่าประโยคนี้เราใช้ในรูปแบบ adverb ครับ เนื่องจากเราต้องการจะให้ความหมายเพิ่มเติมแก่คำว่า grow ซึ่งเป็น verb ครับ
เราลองมาดูอีกคำกันนะครับ
month by month
แปลว่า แต่ละเดือน ตัวอย่างการใช้
The weather here changes month by month.
แปลความได้ว่า สภาพอากาศที่นี่เปลี่ยนแปลงในแต่ละเดือน
ส่วนอีกคำคล้าย ๆ กัน
month after month
แปลว่า ทุก ๆ เดือน หรือ ใช้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหลายเดือนต่อกันครับ เช่น
They meet at the same place month after the month.
แปลว่า พวกเขามาพบกันในสถานที่เดิมทุก ๆ เดือน ซึ่งความหมายก็จะสื่อว่าเกิดขึ้นหลาย ๆ เดือนต่อเนื่องกันนั่นเองครับ
ตอนนี้ทุกท่านคงจะทราบแล้วว่า ในคำว่า month จะมีวิธีการใช้ที่หลากหลายมากกว่าความหมายตรง ๆ นะครับ ซึ่งอาจารย์หวังว่าเนื้อหาในวันนี้ จะช่วยไขข้อสงสัยของทุก ๆ ท่านได้อย่างดี และเป็นประโยชน์ทั้งในด้านการฟัง การอ่าน รวมไปถึงการพูด การเขียนภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง เพิ่มความเข้าใจและแม่นยำยิ่งขึ้นครับ
– อ.ปริญญ์
